เรื่องเล่าเมื่อครั้งเป็นคุณครูสอนพิเศษภาษาไทย
ลูกศิษย์คนแรกของคุณครู
ลูกศิษย์คนแรกของคุณครู
เป็นนักเรียนชาย ขอไม่เอยชื่อ คุณครูต้องเดินทางไปสอนที่ตลาด
เมื่อคุณครูไปถึงที่บ้านของนักเรียนก็ปรากฏนักเรียนชายร่างเล็ก
ที่ไม่ดูจะดื้อหรือซนแต่อย่างไร หน้าตาน่ารัก เหมาะกับวัย
สิ่งแรกที่คุณครูทำคือการยิ้มให้ ด้วยความเชื่อลึก ๆ ในใจว่า รอยยิ้มชนะทุกสิ่ง และก็จริงตามนั้น
รอยยิ้มทำให้เรากลายเป็นคุณครูที่แสนวิเศษสำหรับนักเรียนได้จริง ๆ การประเมินทำไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
แม้จะไม่บ่อยมากเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเป็นการทำแบบประเมินที่ไม่เคร่งเครียด
คุณครูจึงสอบถามนักเรียนไปอีกหลากหลายเรื่องเพื่อให้คุ้นเคย จนในที่สุดคุณครูก็ทราบแล้วว่าเหตุใดที่ผู้สอนคนเก่าจึงกล่าวว่านักเรียนอ่อนภาษาไทย
แท้จริงแล้ว นักเรียนไม่เชิงอ่อนภาษาไทยมากเท่าใด
แต่อาจจะเป็เพราะผู้สอนคนเก่าไม่ทำการประเมินนักเรียนก่อนทำการสอน ผู้สอนภาษาไทย
ทุกท่านจะต้องจำไว้ข้อหนึ่งว่า ในด้านทักษะทางภาษาไม่ใช่ว่าทุกคน
นักเรียนทุกคนจะมีความสามารถเท่ากัน
การที่เราไม่ทำการวัดและประเมินผลเสียก่อนย่อมทำให้การเรียนการสอนภาษาไทยมีปัญหา
ทั้งผู้สอนและนักเรียน
ในระยะแรกคุณครูก็มีปัญหากับคุณแม่ในเรื่องของการทำแผนการเรียนการสอน
โดยมุมมองของคุณแม่ ท่านเห็นว่านักเรียนที่เราสอนนั้นเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
๓ แล้ว การที่เราทำแผนการเรียนการสอนที่ต่ำกว่าระดับ อาจจะไม่สมควรมากนัก
แต่เมื่อคุณครูได้พิจารณาในด้านผลการประเมินก็เห็นว่าสมควรจะทำพื้นฐานของนักรียนให้แน่นเสียก่อน
เวลาศึกษาในระดับสูงต่อไป จะได้ไม่มีปัญหา
สิ่งที่คุณครูมีมากกว่าคุณครูสอนพิเศษ หรืออาจจะเรียกว่าติวเตอร์
ก็คือแบบแผนที่มีระบบระเบียบกว่า
คุณครูจะมีการทำการประเมินในตอนแรกของการรับงานสอน และจะมีการประเมินผู้สอนในทุกระยะ
พร้อมทั้งมีการจัดการทำการทดสอบบทเรียนว่านักเรียนมีความเข้าใจได้ดีหรือไม่ในบทเรียน
เป็นระยะ ๆ และทุกครั้งที่คุณครูไปสอนก็จะจัดทำแผนการเรียนการสอน
แนบกับผลการเรียนการสอนส่งให้ผู้ปกครองหรือนักเรียนทราบทุกครั้ง ดังนั้น
คุณครูจึงยืนยันว่าการเรียนการสอนกับคุณครูมีระบบระเบียบ
และสามารถช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจในด้านภาษาไทยได้ดียิ่งขึ้น
จนถึงทุกวันนี้นักเรียนชายประถมศึกษาผู้นี้ก็ได้ผ่านระดับชั้น
ไปตามลำดับและมีผลการเรียนด้านภาษาไทยที่ดีขึ้นไปตามลำดับ อาจจะมีคนคิดว่า
คงเป็นเพราะคุณครูช่วยในด้านการเรียนการสอน แต่คุณครูอยากจะกล่าวตรงนี้เลยว่า
ในการเรียนการสอนภาษาไทยคุณครูใช้การส่งเสริมการอ่าน
และจะจัดหาหนังสือที่เหมาะสมกับช่วงวัยให้นักเรียนยืมอ่าน
หนังสือเป็นบ่อเกิดที่ทำให้เราเก่งภาษาไทย เขียน อ่าน เก่งและคล่องขึ้น
นักเรียนชายคนนี้ด้วยก็เช่นกัน ด้วยรอยยิ้มที่คุณครูมีให้เสมอ และความห่วงใย
ไม่เลี้ยงไข้ หวังให้นักเรียนมีทักษะภาษาไทยดีขึ้น
แม้ว่าการเป็นคุณครูสอนพิเศษเช่นนี้ในอดีตจะถูกเลิกจ้างเมื่อใดก็ได้
แต่คุณครูก็ทำให้นักเรียนของครูทุกคนได้มีพัฒนาการที่ดี
สิ่งหนึ่งที่คุณครูยังยึดมั่นเสมอไม่เสื่อมคลาย
นักเรียนลูกศิษย์ของครูจะรู้ดีว่า คุณครูไม่ได้สอนเพียงภาษาไทยแต่สอนคุณธรรม
จริยธรรม มารยาทไทย และมรดกไทยไปในตัวโดยที่นักเรียนเองก็ไม่รู้ตัว
แต่ครูเชื่อว่าสักว่าเมื่อลูกศิษย์ของครูเติบโต จะจำครูได้ ว่าครูสอนอะไร
และควรเป็นอะไรให้แก่สังคมไทยครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น