วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

วิเคราะห์หลักสูตรและการเรียนรู้ภาษาไทย



๑. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานต่างกับหลักสูตรสถานศึกษาอย่างไร
ตอบ   
            หลักสูตรสถานศึกษากำหนดขึ้นมาโดยที่อาศัยหลักของหลักสูตรขั้นกลางที่ทางกระทรวงได้กำหนดหรือออกแบบเป็นแนวทางมาให้โดยที่สถานศึกษาอาจจะมีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเนื้อหาสาระมากขึ้นได้ตามที่ต้องการ แต่ต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยการปรับลดตามที่หลักสูตรกลางซึ่งกระทรวงกำหนดไว้ การเพิ่มเนื้อหาสาระของหลักสูตรสถานศึกษาอาจจะเกิดจากการเพิ่มเนื้อหาความรู้ในท้องถิ่นนั้น ๆ มาประยุกต์ใช้ ดังนั้นหลักสูตรสถานศึกษาอาจมีเนื้อหาที่อาจแตกต่างไปแต่ละในท้องถิ่นหรือพื้นที่ต่าง ๆจึงอาจกล่าวได้ว่าหลักสูตรสถานศึกษามีความหลากหลายกว่าหลักสูตรแกนกลาง แต่กระนั้นหลักสูตรแกนกลางก็ยังมีความสำคัญและจำเป็นต่อการกำหนดวางรูปแบบของการเรียนการสอนของครูผู้สอน ดังนั้นความแตกต่างของหลักสูตรสถานศึกษากับหลักสูตรแกนกลางฯจึงแตกต่างกันเพียงในด้านความหลาหลายของเนื้อหาในการสอน และรายละเอียดหลีกย่อยในการสอน อีกทั้งหลักสูตรสถานศึกษายังมีความยืดหยุ่นสูง

๒. คำอธิบายรายวิชาภาษาไทยคืออะไร  มีองค์ประกอบอะไรบ้าง
ตอบ
            อ้างอิงข้อมูลที่ได้จาก หลักสูตรฯปีพุทธศักราช ๒๕๔๔  ดูในหัวข้อสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ภาษาไทย คำอธิบายรายวิชา คือ กลุ่มข้อความที่อธิบายหรือสื่อให้ทราบว่าในรายวิชาภาษาไทยมีอะไรบ้างที่ครูผู้สอนต้องทำความเข้าใจและค้นหาข้อมูลเพื่อนำมาสอนแก่นักเรียนเพื่อให้เกิดทักษะตามที่คำอธิบายรายวิชาต้องการหรืออีกนัยหนึ่งคำอธิบายรายวิชาที่แสดงนั้นมุ่งให้นักเรียนหรือผู้เรียนได้รับความรู้ตามความประสงค์ของหลักสูตรที่กำหนดไว้ และทำให้ครูผู้สอนได้เห็นว่าใน ๑ ภาคการศึกษานั้น ผู้สอนจะสามรถสอนอะไรได้บ้าง นักเรียนจะได้เรียนกี่ชั่วโมง เนื้อหาที่จะเรียน จะสอนมีอะไรบ้าง และมีสาระสำคัญอะไรที่จะต้องเรียนรู้และครู่ผู้สอนควรเตรียมเนื้อหาใดมาประกอบหรือเพิ่มเติม องค์ประกอบของคำอธิบายรายวิชา มีหน่วยสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งหมด ๕ หน่วยสาระ ประกอบด้วย  สาระการอ่าน มาตรฐาน๑.๑   สาระการอ่าน มาตรฐาน ๒.๑   สาระการฟัง การดูและการพูด มาตรฐาน ๓.๑   สาระการใช้ภาษา มาตรฐาน ๔.๑ และ ๔.๒  และ  สาระวรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ๕.๑  ในหนึ่งหน่วยสาระก็จะมีคำอธิบายอย่างย่อประกอบท้ายในทุก ๆ หน่วยสาระ เพื่ออธิบายจุดมุ่งหมายหรือความประสงค์ที่ผู้เรียนสมควรได้รับหรือพึงมี  แสดงให้ทราบดังนี้

ภาษาไทย

สาระที่ ๑ : การอ่าน
มาตรฐาน ท ๑.:        ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาและสร้างวิสัยทัศน์ในการดำเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน
สาระที่ ๒ : การอ่าน
มาตรฐาน ท ๒.:       ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศ และรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
สาระที่ ๓ : การฟัง การดูและการพูด
มาตรฐาน ท ๓.:       สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์

สาระที่ ๔ : หลักการใช้ภาษา
มาตรฐาน ท ๔.:       เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
มาตรฐาน ท ๔.:      สามารถใช้ภาษาแสวงหาความรู้ เสริมสร้างลักษณะนิสัย บุคลิกภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรม อาชีพ สังคม และชีวิตประจำวัน
สาระที่ ๕ : วรรณคดี และวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.:       เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

๓. โครงการสอนวิชาภาษาไทยคืออะไร
ตอบ
            โครงการสอนวิชาภาษาไทยจะจัดทำโดยตัวของครูผู้สอนเอง เป็นการกำหนดเพื่อต้องการบอกให้ทราบว่าใน ๑ ปีการศึกษา เนื้อหาการเรียนการสอนจะเป็นเช่นไร มีอะไรบ้าง โดยอาจทำเป็นตารางกำหนด เช่นกำหนดมา ๑๐ หัวข้อ อนุมานให้ทั้ง ๑๐ หัวข้อคือแต่ละคาบที่มีการเรียนการสอน ในที่นี่ก็จะบอกหรืออธิบายว่า  ๑๐ คาบกล่าวถึงในแต่ละคาบมีเนื้อหาที่จะเรียนหรือสอนอะไร เพื่อเป็นแนวทางโดยแสดงออกเป็นมุมกว้าง มีประโยชน์ทั้งด้านครูผู้สอนเองและนักเรียนด้วย

๔.  แผนการเรียนรู้ภาษาไทยคืออะไร
ตอบ
            ต้องกล่าวก่อนว่า แผนการเรียนรู้เป็นส่วนย่อยที่แยกออกมาแต่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับโครงการสอน  แผนการเรียนรู้จะแตกต่างกับโครงการสอนในด้านที่มีความละเอียดลึกซึ้งกว่าโครงการสอน เช่น โครงการสอน บอกว่าในหนึ่งภาคการศึกษาจะมีการเรียนการสอน ๑๐ คาบ โครงการสอนอธิบายเป็นหัวข้อใหญ่บอกเป็นมุมกว้างว่าจะมีการสอน หลักภาษา การอ่านการเขียน การฟัง การดูและการพูด หรือการพูดเพื่อการโต้วาที  ในแผนการเรียนรู้ก็จะแยกย่อยลงไป เหมือนเครื่องบดที่บดเนื้อหาให้ละเอียด ยกตัวอย่างในโครงการสอนบอกว่าในคาบที่ ๑ จะสอนให้นักเรียนพูดโต้วาที ในโครงการสอนอาจจะให้คำอธิบายสั้น ๆ ไม่ละเอียด หรือบอกหลักจุดประสงค์ แต่ในแผนการเรียนรู้จะบอกว่า หากนักเรียนได้เรียนหลักการพูดโต้วาทีแล้วนักเรียนควรรู้เนื้อหาหรือหลักการพูดอย่างไร สามารถแสดงออกหรือพูดได้อย่างไร มีอะไรที่เป็นจุดสำคัญของการพูดโต้วาทีที่นักเรียนควรรู้ จึงกล่าวโดยสรุปว่าแผนการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการสอนแต่มีความละเอียดและข้อสังเกตที่มากและหลากหลายหรือ เป็นการมองการสอนภาษาไทยในมุมที่แคบกว่าโครงการสอน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น